เน้นปลอดภัย!!! สงกรานต์ปีนี้ "อาชีวะอาสา" จัดให้ฟรี! ตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง

8:35 AM
เน้นปลอดภัย!!! สงกรานต์นี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดโครงการ “อาชีวะอาสาฯ" ตรวจสภาพรถฟรี ระหว่างวันที่ วันที่ 11-17 เม.ย.นี้ พร้อมบริการที่พักรถ 250 ศูนย์ทั่วประเทศ วานนี้ (31 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบอก เปิดตัวโครงการ “อาชีวะอาสา เทศกาลสงกรานต์ 2559 ภายใต้สโลแกน “ตรวจรถก่อนใช้ เดินทางปลอดภัย” โดย พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า โครงการอาชีวะอาสาเทศกาลสงกรานต์ 2559 เป็นกิจกรรมที่นักศึกษาอาชีวศึกษา และครู-อาจารย์จากสถานศึกษาในสังกัด จำนวน 250,000 คน พร้อมให้บริการตรวจสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฟรี ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน ตั้งแต่เวลา 8.30 - 00.30 น. โดยจะมีศูนย์ให้บริการบนเส้นทางสายหลัก และ สายรองทั่วประเทศ กว่า 250 แห่ง เพื่อสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนแก่ประชาชนที่เดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนอาชีวศึกษาที่เรียนในสาขาวิชาช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างอิเล็กทรอนิกส์ และสาขาอื่นๆ ได้ฝึกปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง ทั้งนี้ ศูนย์ให้บริการจะมีจุดสังเกตุ คือ เต็นท์ริมทางสีม่วง และมีป้ายบอกชัดเจน ซึ่งภายในศูนย์จะให้บริการตรวจสภาพการพร้อมเครื่องยนต์ ปรับแต่งเครื่องยนต์ ตรวจ/เติมน้ำกลั่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก และยังให้บริการสอบถามเส้นทาง แหล่งท่องเที่ยว ที่พัก บริการอาหารและเครื่องดื่ม โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.08-5906-5499 "กิจกรรมดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความภูมิใจให้แก่นักเรียน นักศึกษาอาชีวะ ที่ได้ใช้ความรู้ที่เรียนในวิทยาลัย สร้างประโยชน์ให้แก่สังคมอย่างแท้จริง และกิจกรรมในลักษณะนี้ยังสร้างให้เด็กมีจิตอาสา เรียนรู้การทำงานเป็นทีม มีความสมานฉันท์เกิดขึ้นในหมู่คณะด้วย"รมช.ศธ.กล่าว ด้าน ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ปีนี้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะทำใน 2 ส่วน คือ กิจกรรมแรก โครงการอาชีวะอาสาเทศกาลสงกรานต์ 2559 ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้มาใช้บริการ 7 หมื่นคนภายใน 7 วัน เพราะเทศกาลปีใหม่ 2559 ที่ผ่านมีผู้เข้าไปขอรับการบริการถึง 4 หมื่นคน และ กิจกรรมที่สอง ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน แก้ไขปัญหาภัยแล้ง ตามนโยบายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเน้นในพื้นที่ที่มีปัญหาภัยแล้งเป็นหลัก โดยจะดูแลประปาหมู่บ้าน เป็นต้น ที่มา :http://social.tnews.co.th/contents/184948/

Share this

Related Posts

Previous
Next Post »