เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 18 พ.ค. ด.ต.ศักดิ์ดา พร้อมมูล ผบ.หมู่(ป)สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งเหตุรถยนต์ประตูล็อค ขณะจอดติดเครื่องยนต์ไว้ และมีเด็กอายุประมาณ 1 ขวบเศษติดอยู่ในรถด้วย เหตุเกิดที่บริเวณถนนมหาราช ต.ปากน้ำ เขตเทศบาลมืองกระบี่ จึงรุดไปตรวจสอบ พบนางสาวนิ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 50 ปี ยืนรออยู่ที่รถปิกอัพอีซูซุดีแม็กซ์ สี่ประตู สีฟ้า ทะเบียน กล.46602 กระบี่ ซึ่งจอดติดเครื่องยนต์และเปิดแอร์ทิ้งไว้ โดยมีเด็กชายอายุ 1 ขวบยืนถือขวดนมร้องให้อยู่ตรงเบาะหลัง โดยนางสาวนีพยายามบอกให้หลานชายเปิดล็อกประตู แต่เด็กร้องให้ด้วยความตกใจ
นางสาวนิให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถคันดังกล่าวมาจากอำเภอเหนือคลอง เพื่อมารับโทรศัพท์มือถือที่ร้านเทเลวิชในตัวเมืองกระบี่ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร โดยพาหลานชาย อายุ 1 ขวบ 2 เดือนติดรถมาด้วย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นว่าหลานชายยังหลับอยู่ จึงได้จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้บนถนนเพราะไปทำธุระไม่ถึง 10 นาที แต่พอกลับมาที่รถอีกทีพบว่าประตูรถล็อคหมดทั้ง 4 บาน กุญแจสำรองก็ไม่มี ขณะเดียวกันหลานชายที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้นมาแล้วพยามเรียกให้เปิดประตูแต่ไม่ยอมเปิด พยายามอยู่นานกว่า 10 นาทีไม่เป็นผล จึงแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ประสานช่างของบริษัทอีซูซุมาช่วยปลดล็อคประตู โดยใช้ฟุตเหล็กทิ่มจากด้านนอก โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็สามารถเปิดประตูออกมาได้ ท่ามกลางความโล่งอกของเจ้าหน้าที่ จากนั้นนางสาวรนีก็โผเข้าไปอุ้มหลานชายออกมาปลอบขวัญ เบื้องต้นคาดว่าขณะที่นางสาวนีจอดรถติดเครื่องไว้ หลานชายอาจจะตื่นขึ้นมาแล้วมือไปโดนล็อกประตู จึงทำให้ประตูเกิดการล็อคอัตโนมัตทั้งสี่บาน แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่และช่างของบริษัทฯเข้ามาช่วยปลดล็อคไว้ได้สำเร็จ และเด็กไม่ได้รับอันตราย เพียงแต่มีอาการตกใจกลัวเท่านั้น
ที่มา ทันข่าว อุบัติเหตุ กระบี่
Recent Posts
หายไปนานม๊ากก!! จำได้ไหม? "อีป่วน - นางทาส" เจ้าของวลี "แต่ก็มิได้นำพา" ตอนนี้เป็นอย่างนี้ไปแล้ว!! (ชมภาพ)
เป็นละครที่นำมาสร้างหลายครั้ง หลายเวอร์ชั่น สำหรับละครพีเรียด "นางทาส" ที่หลายคนต่างคุ้นหูคุ้นตาบ่อยๆ กับการแต่งตัวไทยย้อนยุค รวมถึงเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรักของผู้ชายสมัยก่อน
ซึ่งละครเรื่อง "นางทาส" หากย้อนไปจะเห็นได้ว่าเวอร์ชั่นปี 2551 ที่ได้ วีรภาพ คู่ ป๊อก และ กบสุวนันท์ เป็นรุ่นที่แฟนๆต่างติดชื่นชอบและคุ้นตามากที่สุด
โดยจุดเด่นของเวอรชั่นนี้ได้มีวลีฮิตโผล่เข้ามาอย่างคำว่า "แต่ก็มิได้นำพา" ของอีป่วน ที่สร้างความแปลกใหม่ให้แก่วงการละคร รวมถึงแฟนๆละครต่างนำไปใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง
วันนี้เราจึงนำภาพล่าสุดของ อีป่วน 2551 เจ้าของวลี "แต่ก็มิได้นำพา" คือ "ปู นริสา พรหมสุภา" ที่ตอนนี้กลายเป็นดารารุ่นเก๋า แหม่หายไปนานขนาดนี้ไปดูดีกว่าเปลี่ยนไปมากแค่ไหน
ปัจจุบัน
เป็นเจ้าของธุกิจขนมซะด้วย
แหม่เห็นอย่างนี้ต้องบอกว่า เวลาเปลี่ยนไปนานมากแค่ไหน เธอก็ยังสวยได้ไม่สร่างจริงๆ
ขอบคุณที่มา : boxza , IG pooae , series@thaidrama
ที่มา : news-lifestyle
ช็อกพูดไม่ออก!! ชาวเน็ตเม้นต์ยับ!! "ใบเตย อาร์สยาม" ใส่ชุดแบบนี้เที่ยวแกรนด์แคนยอน!! บอกเลยตะลึง ไม่อยากเชื่อ!!(ชมภาพ)
เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงและได้การยอมรับจากแฟนๆ "ใบเตย อาร์สยาม" ซึ่งยอมรับว่าเดี๋ยวนี้เธอสวยขึ้นกว่าเดิมจนใครๆต่างก็จับตามองเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะในทำอะไรไลฟสไตล์เป็นอย่างไหน
ล่าสุดดูเหมือนจะมีแฟนๆเข้าไปเม้นต์ในไอจีกันอย่างหนัก หลังเห็นเธอใส่ชุดสายเดี่ยวสีดำ รองเท้าบูธดำ กางเกงหนัง เที่ยวแกรนด์แคนยอน ดังภาพต่อจากนี้
โดยส่วนมากกระแสตอบรับมีทั้งชื่นชมรวมถึงบอกว่าไม่เหมาะสมต่อสถานที่ดังภาพต่อจากนี้
แหม่แต่คราวนี้สาวใบเตยเขากล่าวในอินสตราแกรมไว้นะ ว่าจริงๆเธอมีรองเท้าเอาไว้เปลี่ยน หลังลงมา งานนี้เรียกว่าเตรียมพร้อมไปดีมากจริงๆ
ขอบคุณที่มา : bitoeyrsiam
ที่มา : news-lifestyle
สุดอึ้ง ! หนุ่มนักกวี โชว์ทักษะเขียนตัวอักษรจีนแบบพิศดาร งานนี้บอกเลยไม่ธรรมดา (คลิป)
หนุ่มชาวจีนรายหนึ่ง โชว์ทักษะใช้ศรีษะแทนมือในการจับพู่กันบรรจงเขียนเป็นตัวอักษรแบบตาลปัตรกลับหัว งานนี้บอกเลยไม่ธรรมดา
วันนี้ (6 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุสุดฮือฮาบนโลโซเชียล เมื่อเพจ Shanghaiist โพสต์คลิปวิดีโอหนุ่มชาวจีนรายหนึ่ง โชว์ทักษะของการนักกวีสุดแนวในการนำผ้ามัดกับพู่กันก่อนสวมที่ศรีษะและค่อยบรรจงเขียนตัวอักษรภาษาจีนแบบกลับหัวแทนการใช้มือ ที่บริเวณริมฟุตบาทกลางถนนแห่งหนึ่ง จนทำให้ผู้พบเห็นต่างพากันทึ่งในความสามารถ
สำหรับ การเขียนภาษาจีนแบบกลับหัวโดยใช้มือนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากอย่างหนึ่ง แต่นั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ปัญหาของหนุ่มชาวจีนรายนี้แต่อย่างใด
ที่มา : social.tnews
ชัดแล้ว!! "สัตวแพทย์" เผย "ลอยด์" สุนัขชิบะ ถูกทุบตีและใช้ของมีคมฟันขาขาด !! (มีคลิปแถลง)
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 59 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รรท.อธิการบดีสัตวแพทยศาสตร์, ศ.น.สพ.ดร. อภินันทร์ สุประเสริฐ คณบดีสัตวแพทยศาสตร์, ผศ.น.สพ. คัมภีร์ พัฒนะธนัง ผอ.รพส.ม.เกษตรฯ ร่วมแถลงข่าวผลการรักษาอาการ "ลอยด์" สุนัขพันธุ์ชิบะอินุ เพศผู้ อายุ 7 ปี ที่ถูกทำร้ายรุนแรง จนทำให้ขาหน้าฉีก ซี่โครงหัก หูขาด และถูกนำมารักษาที่แผนกฉุกเฉินและสัตว์ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยได้รับการรักษาด้วยเทคนิคการรักษาขั้นสูง และมีการดีขึ้นตามลำดับ
ดร.จงรัก ได้กล่าวว่า หลังจากที่ทาง รพส.มก. ได้รับลอยด์มารักษา และมีการประกาศรับบริจาคเลือด ต้องขอขอบคุณน้ำใจเจ้าของสุนัขที่มาช่วยบริจาคเลือดถึง 66 ราย ซึ่งเป็นกรณีการรักษาที่มีผู้แจ้งความประสงค์มากที่สุด แต่มีสุนัขที่แข็งแรงและพร้อมให้เลือดได้เพียง 17 ราย โดยที่ผ่านมาปัญหาวิกฤตในการรักษา เป็นเรื่องของบาดแผลเปิดที่หน้าอกในลักษณะเป็นโพรงขนาดใหญ่ 16 ซ.ม. ยาว 20 ซ.ม. พื้นที่ประมาณ 320 ซ.ม. ซึ่งไม่สามารถเย็บปิดได้และติดเชื้อรุนแรง มีหนองและเนื้อตายจำนวนมาก จึงต้องให้ยาปฏิชีวนะเฉพาะทางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันต่อมาลอยด์มีอาการซึมเศร้าจากการเสียเลือดเพิ่ม เนื่องจากอกซ้ายมีการหลุดลอกของแผล หลังจากรักษา 6 วัน ทีมสัตวแพทย์จึงเริ่มทำเลเซอร์ Class IV ติดต่อเป็นเวลา 7 วัน ส่งผลให้ขนาดของแผนลดลงไป 70 เปอร์เซ็นต์ โดยล่าสุดลอยด์สามารถกิจอาหารและเลียน้ำได้เอง ลุกยืนและเดินเองได้ดี ขับถ่ายปกติ ทีมสัตวแพทย์จึงใช้นวัตกรรมเลเซอร์ทำแผลและปิดแผลในการรักษา
ด้าน ผศ.น.สพ.คัมภีร์ ได้กล่าวว่า จากการตรวจสอบผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ทีมสัตวแพทย์สรุปได้ว่า แผลของสุนัขเกิดจากการทุบตีและใช้ของมีคมฟัน ไม่ใช่แผลที่เกิดจากสุนัขกัดกัน โดยมีการนำชิ้นส่วนกล้ามเนื้อบริเวณแผล มาทำการพิสูจน์ทางจุลพยาธิวิทยา ก็ไม่พบการอักเสบแสดงว่า บาดแผลเกิดขึ้นหลังจากขาได้ขาดออกจากร่างกายไม่เกิน 6 ชม. ส่วนการตรวจด้วยเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง หรือทีซีสแกน พบการหักของกระดูกท่อนขาหน้า และการหลุดของข้อศอก ซึ่งรูปแบบการหักเกิดจากการกระชากหรือตี
ที่มา : social.tnews
เช็คสักนิด !! อยากมีชีวิตแฮปปี้หายร้อนลอง "ติดแอร์ตามฮวงจุ้ย" แบบนี้สิ รับรองเย็นสบายไปยันชาติหน้า !!!
เรียกว่าช่วงนี้ร้อนตับแตกกันเลยทีเดียว องศาความร้อนทะลุ 40 องศาไปแล้ว จะไปไหนมาไหนแต่ล่ะทีจะต้องให้แดดหมดส่ะก่อนถึงจะออกไปไหนได้ แต่เชื่อว่าบางคนคงเลือกที่จะนอนตากแอร์อยู่บ้านแน่นอน แต่อาจจะยังไม่กันว่าเราจะติดแอร์ทั้งทีจะต้องติดยังไงไม่ให้พลังงานของแอร์รบกวน และบางครั้งเราจะต้องมี "ฮวงจุ้ย" ในการติดแอร์ด้วยเพราะทุกอย่างมีทุกส่วนที่เกื้อหนุนกันด้วย มาดูกันดีกว่าจะติดแอร์ยังไงให้ถูกหลักฮวงจุ้ย...........
1.เครื่องปรับอากาศไม่ควรตั้งอยู่เหนือศีรษะ เหนือโต๊ะทำงาน หรือเหนือหัวนอน เพราะขณะเปิดใช้ พลังไฟฟ้าที่เกิดขึ้นพร้อมพลังงานความร้อนจะทำให้ตำแหน่งที่ตั้งนั้นมีการสั่นสะเทือน ทำให้ผู้ที่นั่งหรือนอนใต้แอร์ถูกรบกวน ทำงานและพักผ่อนได้ไม่เต็มที่
2.ไม่ควรตั้งแอร์ให้ลมของแอร์ปะทะถูกร่างกายโดยตรง เนื่องจากลมจากแอร์จะพาความชื้นมาด้วยทำให้ป่วยได้
3.ไม่ควรติดตั้งแอร์บริเวณเหนือประตู เพราะเวลาเปิดประตูจะทำให้อากาศร้อนจากภายนอกเข้ามาภายใน เป็นการเพิ่มภาระการทำงานให้กับเครื่องปรับอากาศ
4.ควรติดตั้งแอร์ให้ลมแอร์เป่าขวางเตียงและค่อนไปทางปลายเท้า
5.เวลาติดตั้งแอร์ควรคำนึงถึงการเข้าไปทำความสะอาดหรือซ่อมแซมด้วยว่ามีความสะดวกหรือไม่
ที่มา : social.tnews.
Subscribe to:
Posts (Atom)